Home Top Ad

ไปอยู่บ้านต้นไม้ ที่ระเบียงป่าสัก เชียงใหม่ (Writer in Residence - The Cloud)



ไปอยู่บ้านต้นไม้ ที่ระเบียงป่าสัก เชียงใหม่ 




ส่วนกลางของระเบียงป่าสัก กินข้าว กินกาแฟ กินขนม

 

เวลานึกถึงบ้านต้นไม้ เรามักนึกถึงบ้านที่อยู่ในนิทานสมัยเด็กๆ เท่านั้น ไม่คิดว่าจะได้เห็นของจริงตอนโตแล้ว เหมือนได้อยู่ท่ามกลางป่า เป็นโลกเสมือนชั่วคราวที่ได้พักผ่อนจากโลกแห่งความเป็นจริง



จะว่าไป ปีนี้มาเชียงใหม่รอบที่ 3 แล้ว กลายเป็นที่ที่อยากมาซ้ำเรื่อยๆ เหมือนมีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ แล้วเชื่อว่าจะได้กลับมาอีก เราว่าคงเป็นเพราะมีความเป็นเมือง และความธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้ มีความหลากหลายที่ทำให้มีอะไรน่าค้นหา


บ้านขนุน (Jackfruit house) และบ้านมะขาม (Tamarind house)



เหยียบบ้านต้นไม้ครั้งแรก


บ้านขนุน (Jackfruit)


หลังจากนั่งรถขึ้นเขา ผ่านป่าผ่านเขามา จนถึงที่พัก แล้วเดินไปบ้านที่เลือกนั่นคือ บ้านขนุน (Jackfruit House) เราชอบอากาศชื้นๆ ของต้นไม้ที่เย็นกำลังดี อาจมีหนาวตอนกลางคืนก็ห่มผ้าเอา อากาศดีมาก แสงแดดถึงจะแรงขนาดไหน ก็มีต้นไม้ใหญ่มาช่วยบัง


บ้านต้นปาล์ม (Palm House)


บ้านชมเดือน (Moon House)



บ้านกอไผ่ (Bamboo House)



บ้านต้นไม้มีหลากหลายมาก มีชื่อไม่ซ้ำกันเลย ทั้งบ้านมะขาม (Tamarind House) บ้านกอไผ่ (Bamboo House) บ้านต้นปาล์ม (Palm House) บ้านชมเดือน (Moon House) บ้านเถาวัลย์ (Vine House) บ้านระเบียง (Rabeang House) บ้านชมเดือน (Moon House) บ้านริมธาร (Rimtarn) เราอยู่บ้านขนุนที่สูงประมาณนึง สูงรองลงมาจากบ้านมะขาม



เตียงในห้องนอน




รูปภาพในห้องนอน



บ้านขนุนแบ่งออกเป็น 3 ห้อง มีห้องนอน ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่นข้างนอก เชื่อมกันด้วยบันได และชานพัก ห้องนอนตกแต่งเหมือนบ้านไม้สมัยก่อน มีชั้นวางหนังสือเก่า และกบไม้ ซึ่งห้องนอนเป็นห้องที่เย็นมากตอนกลางคืน เย็นแบบไม่ต้องการให้พัดล่มจ่อตัวเลยทีเดียว เจอหอยทากตัวเล็กในห้องน้ำตอนฝนตกด้วย



ห้องนอนฝั่งชั้นหนังสือ



เดินไปสำรวจป่า หมอก (บังเอิญ)เจอฝูงหมา และกองทัพมด 


รอบที่พักจะมีจุดชมพระอาทิตย์ตกดินและพระอาทิตย์ขึ้น แต่ด้วยความที่เราไปตอนฤดูฝน เมฆเยอะ ฟ้าอาจไม่ได้เปิดมาก เลยเป็นการไปดูวิวรอบๆ ที่พักเสียมากกว่า เดินไปแล้วเจอด่านแรกเลยคือฝูงหมาบ้านแรกที่จู่ๆ ก็วิ่งกระโจนมาหาเราทันทีที่อยู่หน้าบ้านนั้น วิญญาณความกลัวมาออกมาทันทีเลย ถ้าวิ่งหนีก็กลัวหมาจะวิ่งตาม เลยยืนอยู่เฉยๆ นี่แหละ โชคดีมากที่เจ้าของบ้านขับมอเตอร์ไซค์มาไล่หมาให้พอดี เลยเดินสำรวจธรรมชาติรอบที่พักต่อได้


วิวระหว่างทาง 1



ระหว่างทางมีต้นไม้สูงโอบอุ้มอยู่ตลอดทาง มีทั้งดอกไม้ ผีเสื้อ ความเย็น และความชุ่มฉ่ำ ทำให้เดินต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่มีเหงื่อออกเลยแม้แต่น้อย เมื่อเดินไปเห็นภูเขาทีไร มักจะเห็นหมอกตามมาด้วย เป็นหมอกผืนใหญ่มาก ทำให้ภูเขาเหมือนลอยได้



วิวระหว่างทาง 2



วิวระหว่างทาง 3 มีหมอกด้วย



ระหว่างที่ยืนอ่านป้าย จนลืมไปเหยียบอะไร เจออีกทีก็เห็นฝูงมด พอเอาเท้าหลบไปก็เจอฝูงมดอีก สรวนใช้ได้เลย เดินหลบมดไปอีกทีก็เจอจุดชมวิวอีกจุด



วิวระหว่างทาง 4



มีใบไม้และดอกไม้กองเล็กๆ ที่รู้สึกอยากถ่ายรูปเก็บไว้นิดนึงแบบไม่มีเหตุผล พอเดินกลับถึงที่พักก็ฟ้ามืด ได้เวลาข้าวเย็นแล้ว


ดอกไม้ข้างทาง

ใบอะไรก็ไม่รู้ สวยดี

ใบนี้ก็สีแปลกๆ ดี


อาหารการกิน อร่อย และอิ่มมากกกกก


ข้าวเย็นคืนที่ 2 - มัสมั่นไก่ ผัดทอดกรอบ ไก่ผัดเปรี้ยวหวาน แตงโม และสัปประรด


ข้าวกลางวัน คืนที่ 2 - สตูหมู และกระเพราไก่



ข้าวเช้าวันที่ 2 - ไข่ดาว ไส้กรอก แฮม และขนมปัง


ข้าวเย็นวันแรก - ปลาทอดสมุนไพร ผัดผัก ไก่ผัดเม็ดมะม่วง และแตงโม


ข้าวเย็นของที่นี่ค่อนข้างจัดเต็ม มีกับข้าว 3 อย่าง แล้วผลไม้อีก 1 จาน

ปลาทอดสมุนไพร ผักชุบแป้งทอด เป็น 2 เมนูที่ชอบที่สุด



ปลาทอดสมุนไพร



ผักชุบแป้งทอด



ชงกาแฟสดเองครั้งแรก...ร่วมชั่วโมง


ชงกาแฟสดด้วย Moka pot ครั้งแรก


ฝึกชงกาแฟด้วยเครื่อง Moka pot ครั้งแรก แต่ก่อนที่ร้านเคยจ้างบาริสต้ามาชงกาแฟแต่ก็ไม่คุ้ม เลยเน้นให้คนที่มาพักชงเอง ให้ร้านชงให้คิด 80 บาท เลยเปิดยูทูปฝึกชงตรงนั้นเลย รอบแรกน่าจะใส่น้ำน้อยไปเลยไม่สามารถกลั่นออกมาเป็นกาแฟได้ เพิ่งกลั่นได้ตอนรอบที่สองเพราะใส่น้ำมากขึ้น




ทำงานฝีมือในบ้านต้นไม้


นอกจากชงกาแฟสดแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นที่สามารถทำในที่พักได้อย่าง


ตอนบ่ายได้ระบายสีช้างด้วยสีอะคิลิค มีไปเลือกน้องช้างที่ทำมาจากไม้ก่อน แล้วแบกกะบะสีกับพู่กันมาที่โต๊ะไม้เลย



ช้างไม้หลังทาสี และก่อนทาสี 



ระหว่างที่ทาสีช้างด้วยสีอะคิลิกที่เป็นช้างที่ทำมาจากไม้  ค่อยๆ ทาทีละนิด รอแห้งแล้วทาสีต่อไป พอแห้งแล้วสีเข้มขึ้น ตอนระหว่างทาสีช้างไม้ทำให้ใจเย็นลง และอยู่กับตรงหน้ามากขึ้น




ระหว่างทาสีช้างไม้ด้วยสีอะคิลิก


คุณปิ่น(เจ้าของที่พัก) บอกว่าฝนตกแน่นอน เลยเอาเซตร้อยลูกปัดพร้อมกับไฟสำรองมาให้ พอฝนตกแล้วนั่งร้อยลูกปัดอยู่ในห้อง เลือกลูกปัดกับตัวเกี่ยวสนุกสนานมาก ได้ตุ้มหู 3 คู่



ร้อยลูกปัดในบ้านต้นไม้ตอนฝนตก




แวะสะพานแขวนเชื่อมใจก่อนกลับบ้าน



สะพานแขวนเชื่อมใจ



ระหว่างนั่งรถกลับไปสนามบินเชียงใหม่ พี่อ้อมคนขับรถได้พาไปแวะสะพานแขวนเชื่อมใจ ที่สร้างโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2560 ทำให้เด็กๆ ที่อยู่แถวนั้นได้เดินทางข้ามไปโรงเรียนด้วยสะพานนี้ ถือเป็นจุดที่ถ่ายรูปสวยดี ที่เซอไพรส์คือมีแม่กุญแจมาคล้องที่สะพาน ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติ มีความเชื่อเรื่องคล้องแล้วความรักจะยืนยาว


ทางเข้าระเบียงไม้สัก เชียงใหม่


การได้เข้าไปพำนักที่ระเบียงป่าสัก เชียงใหม่ ทำให้เหมือนได้เข้าไปอยู่ในป่าอีกครั้ง เป็นการอยู่ในป่าที่ใกล้ชิดธรรมชาติด้วย และยังสะดวกสบายด้วย เป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดี



ร้านขายของที่ระลึกและน้องหมาประจำที่พัก



3 ความประทับใจที่ได้พำนัก


ชอบที่ไม่ได้ทำลายต้นไม้เพื่อสร้างบ้านแต่ละหลัง ยังมีต้นไม้อยู่เป็นจำนวนมาก ความชุ่มชื้นยังคงอยู่


บรรยากาศดีมาก ได้อยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร


ความเป็นกันเองของผู้คน และสถานที่ 


Lobby และ ร้านขายของที่ระลึก















ช่องทางการติดต่อที่พัก


Facebook : Rabeang Pasak Treehouse ระเบียงป่าสักบ้านต้นไม้ 

คุณปิ่น, โทรศัพท์ 09 3040 6494


Disclaimer : บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Writer in Residence โดยนิตยสารออนไลน์ The Cloud โดยทางที่พักได้ complimentary breakfast and dinner 2 nights และ Jackfruit house 2 nights




ไปอยู่บ้านต้นไม้ ที่ระเบียงป่าสัก เชียงใหม่ (Writer in Residence - The Cloud) ไปอยู่บ้านต้นไม้ ที่ระเบียงป่าสัก เชียงใหม่ (Writer in Residence - The Cloud) Reviewed by giftoun on ตุลาคม 31, 2566 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น

Sponsor

AD BANNER

Travel everywhere!