กระชากหน้ากากฟรีแลนซ์(Freelance) สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นเสมอไป

หลังจากที่ใช้ชีวิตคล้าย ๆ ฟรีแลนซ์มาครบ 5 เดือนแล้ว เลยอยากมาแชร์ให้ฟังกับคำถามหลายคำถามที่ถามเราบ่อย หรือบางอย่างที่อยากเล่าเองเผื่อเป็นประโยชน์บ้าง มั้งนะ 555 จริง ๆ แค่อยากพิมพ์เก็บไว้อ่านเองนี่แหละ บลอคนี้ขอเป็นคนถามเอง ตอบเอง พิมพ์เองเลยแล้วกัน

ตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง

• Graphic designer ของ Thumb T-shirt & Ribbon ติดเสื้อ ถือเป็นงานหลักเลยก็ว่าได้ เป็นงานที่ทำทุกวัน ถ้ามีงานตรงนี้เข้าก็ต้องทำก่อน ส่งก่อนวันต่อวัน เพราะถือว่าเป็นงานประจำที่ทำที่บ้านได้ของเรา
• เขียนบทความ รีวิว ทำ How-to แล้วแต่ว่าบางทีอาจจะจ้างบ้าง อยากเขียนเองบ้าง ได้ของมาลองใช้จาก https://th.revu.net/ ซะเป็นส่วนใหญ่ ที่เหลือเป็นจ๊อบ ๆ ไป
• เป็นผู้ช่วยสอน Info Graphic ของ infographic thailand ถือว่าเป็นสตาฟคนนึงนี่แหละ เฉลี่ยประมาณ 1-2 วันต่อเดือน
• ขายรูปใน https://www.shutterstock.com/g/Sutthimon+Ounnapiruk เพิ่งลองทำเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วนี่เอง ยังได้ยอดโหลดไม่เยอะมาก ยังต้องพัฒนาฝีมืออีกเยอะ
•  ออกแบบโลโก้ตามร้านต่าง ๆ งานแบบนี้นาน ๆ ทีจะมี
• ถ่ายภาพงานรับปริญญา นาน ๆ ทีจะมีเหมือนกัน

ส่วนมากจะทำงานที่บ้าน 90 % อีก 10 % ทำงานนอกบ้านในส่วนของผู้ช่วยสอนค่ะ

อื้อหือ ทำเยอะขนาดนี้ก็รวยล่ะสิ

แหม...ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก เพราะมีงานที่ได้เงินประจำแค่ Thumb T-shirt & Ribbon ติดเสื้อ เท่านั้น ส่วนงานอื่น ๆ แล้วแต่จังหวะมากกว่า บางที่มีงานนอกมาเยอะแบบติด ๆ กัน ก็ต้องคว้าไว้หมดเพราะไม่รู้ว่าเดือนหน้าจะมีอีกมั้ย  อยากจะรับงานให้มากที่สุดจนอยากแยกร่างเลยก็ว่าได้ บทจะว่างก็ว่างไปเลย ตอนว่างจะถ่ายรูปและอัพรูปขายใน shutterstock ไว้ให้มากที่สุด

แล้วหางานนอกอื่น ๆ มาจากไหนกัน

ส่วนมากจะมาจากคนรู้จัก เค้ารู้ว่าเรารับงานอยู่แล้ว บางเว็บไซต์ที่ไม่สะดวกไปบางอีเว้นท์ที่เป็นวันธรรมดาก็จะติดต่อมา มีที่หาเองก็กรุปสมาพันธ์ฟรีแลนซ์และตาม Timeline ใน Facebook อันไหนพอทำได้ก็ทำ เลือกงานในระดับนึง เน้นงานเขียนและออกแบบ 2D

ดูสบายเนอะ ทำงานอยู่บ้าน แล้วสบายจริงมะ

สบายอยู่บ้างแหละ ตรงที่ตื่นมาก็ทำงานได้เลย ไม่ต้องแต่งตัวแต่งหน้าฝ่ารถติดขึ้นบีทีเอส สบายตรงนี้ แต่ก็มีจุดที่ไม่สบายคือเหมือนทำงานอยู่ตลอดเวลาถ้ารับงานเยอะเกินไป 555 คือตอนทำงานประจำก็จะฟิคเวลาทำงานชัดเจน เช่น 09.00-18.00 น. นอกเหนือจากนั้นก็พักผ่อนเต็มที่ ตอนทำประจำก็ไม่ค่อยรับงานอื่นมากเท่าไหร่ กลัวทำไม่ทัน 555 กลายเป็นว่าตอนฟรีแลนซ์ก็ทำงานเต็มที่ รับงานเต็มที่ จนนอนน้อยไปนิดนึงเหมือนกัน

แล้วอิสระจริงมั้ย เป็นฟรีแลนซ์เนี่ย

ยิ่งทำงานเป็นอิสระได้ขนาดไหน เค้าก็ตามงานได้อิสระเท่านั้นแหละ จะมีงานหลักที่ลาไปเที่ยวได้บ้างเล็กน้อย หรือถ้าแวบไปไหนก็หอบโน้ตบุ๊คไปทำงานด้วยเลย

แล้วจริงมั้ย ที่เป็นฟรีแลนซ์แล้วต้องอดนอนอะ แบบในหนังงี้

สำหรับเรานี่ไม่จริงเลย ได้นอนทุกวัน อดนอนครั้งสุดท้ายก็สมัยเรียนนู่น รู้สึกตัวว่าอดนอนเหมือนสมัยเรียนไม่ได้แล้วอะ เคยนอนน้อยที่สุดคือ 4 ชั่วโมง ซึ่งก็พยายามจะไม่ทำบ่อย ๆ หรอก ไม่ไหว 5555 ส่วนมากจะนอน 7-9 ชั่วโมง ยังให้ความสำคัญกับการพักผ่อนอยู่มาก คิดว่าถ้าต้องทำงานแบบอดนอนขนาดนั้นคงจะบ้างานมาก ไม่ก็บริหารเวลาไม่เป็น ซึ่งอาการบ้างานก็ยังเป็นอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อดนอนแล้ว แต่ก็บั่นทอนเวลา Relax ไปนิดนึง

มีโอกาสกลับไปทำงานประจำอีกมั้ย

แล้วแต่โอกาสและความเหมาะสมแล้วกัน ไม่ได้ปิดกั้น ถ้าเจออะไรน่าสนใจก็ยังสมัครอยู่บ้างนะ แต่ด้วยการทำงานแบบฟรีแลนซ์ที่เรายังสนุกอยู่ ได้ทำนุ่นนี่นั่นเยอะแยะไปหมด เหมือนได้ค้นหาตัวเองเพิ่มขึ้น เลยขอยืดเวลาเป็นฟรีแลนซ์อีกซักพักใหญ่ ๆ แล้วน่าจะกลับไปทำงานประจำอยู่ดี อันนี้ไม่ฟิคเลย แล้วแต่โชคชะตา (ขนาดน้านนน)

สุดท้าย อยากฝากอะไรถึงเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังหางานมั้ย

จริง ๆ ใจยังเชียร์ให้ลองทำงานประจำอยู่นะ อยากให้ลองไปอยู่ในระบบก่อน ยังเชื่อว่าน้อยคนนักที่จะเริ่มต้นฟรีแลนซ์ได้เลยหลังเรียนจบ เว้นแต่มี connection ที่ดีอยู่แล้ว หรือรู้แน่นอนว่าอยากทำอะไรจริง ๆ อันนี้อีกเรื่อง ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ชัดมากว่าชอบอะไรแน่ ๆ แต่จะสโคปวานได้แคบขึ้นแล้วว่าอยากทำอะไร สนับสนุนให้ลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างแล้วตัดสิ่งที่ไม่ชอบ เก็บสิ่งที่ใช่

เอาล่ะ คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้แหละ คิดว่าเคลียร์ในหลาย ๆ จุดในมุมของเราละนะ ส่วนเรื่องไหนที่ยังไม่เคลียร์ มีคำถามก็ถามมาได้เลยนะคะ ยินดีตอบเท่าที่ตอบได้ เผลอ ๆ ถ้ารวบรวมคำถามมากพออาจจะทำบลอคต่อไปเลยก็ได้ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่า ^_^