[Review]เมื่อดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บาน ชั้นจึงรีบไปถ่าย (Full Bloom Pink Trumpet tree at Kamphangsan, Thailand)

วันก่อนพี่สาวเห็นดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานอยู่เต็ม Facebook เลย อยากไปมากกกกกกกกก เค้าก็ลองหาข้อมูลดูมี เว็บไซต์ thaventure.com/ ที่มีข้อมูลแน่นมาก น่าตามรอยเค้าไป เมื่อคืนเลยมาแทคทีมกับเราวางแผนไปเลย เป็นทริปปุบปับสุด Search แค่ท่ารถตู้กับร้านอาหารเท่านั้น ที่เหลือก็ลุยถ่ายรูป เตรียมชาร์จแบตกล้องให้พร้อม หมวก ร่ม และแว่นกันแดดสำคัญมาก เพราะแดดแผดเผาน่าดู ทากันแดดให้พอแล้วไปรอที่ท่ารถตู้ได้เล้ยยยยย

ไปรอที่ท่ารถตู้ได้ถึง 3 ท่า

จะไปท่าสายใต้เก่า(ปิ่นเกล้า) เกษตรบางเขน หรืออนุเสาวรีย์ชัยก็ได้ เราอยู่ฝั่งธนเลยไปท่าสายใต้เก่าใกล้สุด เลยเซ็นทรัลปิ่นเกล้าไปแค่เกือบ ๆ 2 กิโลเมตรเท่านั้นเอง คลิกดูแผนที่ที่นี่

พอถึงเดินเข้าไปตึกด้านขวา เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงคิวรถตู้เรียงราย ความรู้สึกเหมือนเดินตลาดแล้วมีแม่ค้าเรียกให้ซื้อของยังไงยังงั้นเลย แต่คนที่มาท่ารถตู้เค้ามีจุดประสงค์แน่ชัดแล้วว่าจะไปไหน เค้าจะเปลี่ยนใจเหมือนเปลี่ยนร้านอาหารได้หรอ 555 อันนี้ก็ได้แต่สงสัยอยู่ในใจ

เดินไปจนกลาง ๆ จะเห็นป้ายกำแพงแสนก็ต่อคิวซื้อบัตรได้เลย ตกคนละ 80 บาท เนื่องจากสายนี้จะเป็นกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี เราต้องคอยเปิด google map ดูดี ๆ ไปลงแถว ๆ โรงเรียนสาธิตเกษตรกำแพงแสน ถ้าหลับมีหวังเปลี่ยนที่เที่ยวไปกาญจนบุรีแน่นอน รถออกเวลา 11 โมงตรง เอ้า ! ออกเดินทาง

ถึงถนนชมพูพันธุ์ทิพย์แล้ว

1 ชั่วโมง 30 นาทีผ่านไป ถึงแล้วจ้า อยู่ตรงนี้เลย คลิก ๆ ๆ ยาว 1.6 กิโลเมตรแน่ะ เส้นทางชมพูพันธุ์เป็นเส้นทางที่ไว้ดูชมพูพันธุ์ทิพย์โดยเฉพาะ มีคนประปรายอยู่เหมือนกัน

มีต้นราชพฤกษ์ด้วยนะ

ประวัติการปลูกชมพูพันธุ์ทิพย์

มารยาทควรรู้นิดหน่อย

มาถึงกำแพงแสนต้องกินเสต็กเนื้อสิ !!!

เค้าว่าเนื้อดีงามมาก เพราะมีฟาร์มวัวอยู่ใกล้ ๆ เนื้อคงสดมากแน่นอน ร้านจะอยู่ลึกเข้าไป 1.6 กิโลเมตร คือเดินไกลพอดู หิวก็หิว แต่เพื่อเนื้อเราทำได้ เดินตรงไปเรื่อย ๆ แล้วเลี้ยวซ้าย ถึงแล้วสวรรค์ของท้องงงงงง พิกัดอยู่นี่เลยจ้า

เห็นป้ายนี้แล้วเดินตรงไปอีก แล้วเลี้ยวขวา

หน้าร้านอยู่นี่จ้าาาาาาาา

 วันนี้คนเยอะจริง ๆ เยอะจนร้านปิดรับคนชั่วคราวแล้วเปิดใหม่ตอน 14.00 น. โชคดีมากเรามาตอน 13.50 น. โอ้ว !!! 10 นาทีรอได้สบายมากกกกกก สั่งเนื้อสันใน(Fillet steak) ขนมปังกระเทียม และมันบดไป มาเร็วกว่าที่คิดมาก จานแรกรอแค่ 10 นาทีเองเท่านั้น

เสต็กสันเนื้อใน(Fillet steak) จานขนาดพอสมควร น้ำเกวี่ดีงาม เลือกเนื้อความสุก 75 % เพราะเค้าแนะนำความสุกระดับนี้มา

ซึ่งกำลังดีนะ นุ่ม ๆ มีเนื้อแดง ๆ ข้างในเล็กน้อย จัดว่าฟินค่ะ

ขนมปังกระเที่ยมนี่ก็ได้รสกระเทียมชัดดี แถมกรอบมากจริง ๆ

มันบดนี่เซอร์ไพรส์มากกกกกกก ให้มาเยอะดี มีซอสที่รสชาติคล้ายซุปเห็ดด้วยอะ

ไอศกรีมนี่ไม่ใช่ของร้านสเต็กนะ เป็นร้านที่อยู่ก่อนร้านสเต็กไปหน่อย ชื่อร้าน Kutto Ice เป็นไอศกรีมโฮมเมด

ลูกซ้ายเป็นรสนมเปรี้ยว ส่วนลูกขวาเป็นรสมะม่วงน้ำปลาหวาน ลูกนี้นี่ได้รสน้ำปลาหวานจริง ๆ นะ

ท้อปปิ้งจะมีอัลมอล คอนเฟลก และกล้วย

ยิ่งเย็น คนยิ่งเยอะ บอกเลย

เราเดินกลับไปทางเดิมตอนบ่ายสามกว่า ๆ คนเยอะขึ้นมาก ๆ ถ่ายไปทางไหนก็ติดคนตลอด เลยถ่ายไม่เยอะเท่าตอนขามาแล้ว

ตอนเพิ่งออกจากร้านสเต็กก็โทรถามพี่คนขับรถตู้จากตั๋วที่ได้ตอนขามานี่แหละ โทรเบอร์ที่ขับมาจากกาญจนบุรีอ่านะ สรุปคือออกจากกาญจนบุรีตอน 16.00 น. และน่าจะถึงที่กำแพงแสนตอน 16.30 น. กะเวลาเดินไปถึงหน้าปะตูพอดี แต่รถติดเลยเลทไป 15 นาที เป็นช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดแล้วก็ว่าได้ ริมถนนไม่มีร่มไม้แต่อย่างใด ใส่หมว ใส่แว่น ถือร่มเต็มที่ ต่างกับถนนชมพูพันธุ์ทิพย์ที่ไม่ร้อนเท่าไร แถมลมยังแรงด้วย

ตอนกลับนี่หลับกันทั้งคู่จนถึงกรุงเทพนี่แหละ คือเหนื่อยมากกกกกก เดินทางมาถึงท่ารถสายใต้เก่าเวลา 18.30 น. เป็นทริปที่กินเวลาทั้งวันเลย เหนื่อยแต่คุ้มมาก สวยจริง ๆ โชคดีที่ได้ไปเจออะไรแบบนี้ ถ้าใครอยากไปควรรีบไปนะ ตอนนี้กำลัง full bloom เลย คาดการณ์ว่าจะร่วงช่วง 18-21 เม.ย. นี้นี่แหละ ถ้าพลาดปีนี้ต้องรอปีหน้าช่วงเดือน ก.พ. ถึงเดือน เม.ย. เลยน้า

ไปก่อนแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามบลอคนะคะ ^_^